ลูกฟันงอก เสี่ยงท้องเสียและเกิดผื่นผ้าอ้อม ต้องเฝ้าระวัง
- การงอกของฟันในทารกอาจทำให้เกิดอาการงอแง ร้องไห้ และปัญหาทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผื่นผ้าอ้อมหากไม่ได้รับการดูแลที่เหมาะสม
- อาการสำคัญของการงอกของฟัน ได้แก่ เหงือกบวมแดงและเจ็บ น้ำลายไหลมากผิดปกติ และพฤติกรรมชอบกัดสิ่งของ
- การดูแลที่เหมาะสมในช่วงฟันขึ้นรวมถึงการบรรเทาอาการเจ็บเหงือกด้วยของเย็นหรือการนวดเบาๆ เป็นสิ่งสำคัญ และสำหรับการป้องกันผื่นผ้าอ้อม ทำได้ด้วยการเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยๆ และการใช้ครีมทาผื่นผ้าอ้อมที่เหมาะกับผิวบอบบาง
การงอกของฟันน้ำนม เป็นพัฒนาการตามธรรมชาติของทารก แต่ในช่วงเวลานี้พ่อแม่หลายคนอาจสังเกตได้ว่าลูกมีอาการงอแง ร้องกวน รวมถึงอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย เช่น ท้องเสีย ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผื่นผ้าอ้อมได้ หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง
อาการที่จะเกิดในช่วงฟันน้ำนมกำลังงอก ได้แก่:
สำหรับอาการที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฟันของลูกน้อยกำลังจะขึ้น มีดังต่อไปนี้
- ลักษณะเหงือกที่ฟันจะขึ้น มักบวมแดง เจ็บ หรือปวด
- อาการอักเสบบริเวณเหงือกรอบ ๆ ฟันที่จะขึ้น
- งอแง ร้องไห้กวนผิดปกติ
- นอนไม่หลับหรือนอนหลับไม่สบาย
- น้ำลายไหลมากผิดปกติ
- ถูบริเวณเหงือก หรือกัดและดูดมากขึ้น เพื่อบรรเทาอาการคันเหงือก
- ลำไส้ปั่นป่วน อาจมีอาการท้องผูกจนอึดอัดไม่สบายตัว หรือท้องเสียซึ่งเสี่ยงจะทำให้เกิดผื่นผ้าอ้อมได้ง่าย
ลำดับการขึ้นของฟันน้ำนม
ฟันน้ำนมซึ่งเป็นฟันชุดแรกของทุกคน มักมีลำดับการขึ้นดังนี้
- ฟันหน้าล่างคู่กลาง ช่วงอายุ 6-10 เดือน
- ฟันหน้าบนคู่กลาง ช่วงอายุ 8-12 เดือน
- ฟันคู่ข้างและฟันกรามเล็ก ช่วงอายุ 9-16 เดือน
- ฟันเขี้ยว ช่วงอายุ 16-20 เดือน
- ฟันกรามหลัง ช่วงอายุ 20-30 เดือน
ทำไมลูกน้อยถึงงอแงในช่วงที่ฟันงอก
อาการปวด อักเสบบริเวณเหงือก และบวมแดง เป็นลักษณะฟันจะขึ้น ซึ่งทำให้ลูกน้อยงอแงและหงุดหงิด การเจ็บปวดอย่างต่อเนื่องมักส่งผลต่ออารมณ์และคุณภาพการนอน ตลอดจนยังส่งผลให้ลูกน้อยรู้สึกไม่สบายตัวตลอดเวลา กระสับกระส่าย และไม่สบายใจอีกด้วย
ความเชื่อมโยงระหว่างฟันงอกกับอาการท้องเสียและผื่นผ้าอ้อม
ถึงแม้ฟันงอกจะไม่ใช่สาเหตุโดยตรงของการท้องเสีย แต่ก็มีความเชื่อมโยงกันได้ เนื่องจากเมื่อฟันจะขึ้น ลูกจะรู้สึกไม่สบายตัวและมีพฤติกรรมชอบกัดหรือดูดสิ่งของต่าง ๆ เพื่อบรรเทาอาการ ซึ่งอาจนำเชื้อโรคหรือแบคทีเรียเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ทำให้ลำไส้ปั่นป่วนและเกิดอาการท้องเสียตามมา
เมื่อมีอาการท้องเสีย ลูกจะขับถ่ายบ่อยครั้ง ทำให้ผิวหนังบริเวณก้นและอวัยวะเพศต้องสัมผัสกับอุจจาระและปัสสาวะในผ้าอ้อมนานขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดผื่นผ้าอ้อม ดังนั้น การดูแลความสะอาดและเปลี่ยนผ้าอ้อมให้บ่อยขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากในช่วงนี้
วิธีดูแลลูกน้อยที่กำลังฟันงอกอย่างถูกวิธี
เคล็ดลับบรรเทาอาการไม่สบายตัวเมื่อลูกฟันขึ้น มีดังต่อไปนี้
- ให้ลูกเคี้ยวสิ่งของที่มีความเย็น เช่น ห่วงยางกัดที่แช่ในตู้เย็น หรืออาหารแช่แข็งสำหรับเด็กวัยนี้ เพื่อช่วยลดอาการบวมและชาของเหงือก
- นวดเหงือกของลูกเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วที่สะอาด เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดและความตึงเครียด
- หากลูกเจ็บปวดมาก อาจจำเป็นต้องใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยาแก้ปวดสำหรับเด็ก แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาเสมอ
วิธีดูแลและป้องกันอาการผื่นผ้าอ้อม
หากหนูน้อยมีอาการท้องเสียเนื่องจากฟันงอก มีวิธีป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดผื่นผ้าอ้อมได้ ดังนี้
- คอยดูว่าผ้าอ้อมเปื้อนหรือเปียกหรือไม่ เพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกได้ทันท่วงที
- ใช้ครีมทาผื่นผ้าอ้อม ให้ทั่วบริเวณที่ต้องสัมผัสก่อนใส่ผ้าอ้อมใหม่ เพื่อให้เป็นเกราะป้องกันระหว่างผิวกับผ้าอ้อม ทั้งยังบำรุงผิวให้ชุ่มชื่นอีกด้วย
- ควรปล่อยให้ลูกไม่ใส่ผ้าอ้อมบ้างเป็นบางเวลา เพื่อให้ผิวได้มีโอกาสสัมผัสกับอากาศ ไม่อับชื้นตลอดเวลา
อาการเด็กฟันจะขึ้น ที่มักจะงอแงเพราะความเจ็บปวด เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเผชิญ ซึ่งการเข้าใจวิธีการรับมือเหล่านี้ จะช่วยให้คุณและลูกรักสามารถผ่านช่วงเวลาอันแสนยุ่งยากนี้ไปได้อย่างราบรื่นและปลอดภัย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับอาการเด็กฟันจะขึ้น
Q: ลูกฟันขึ้นมักงอแงนานกี่วัน ?
A: อาการงอแงมักจะเป็นช่วงสั้น ๆ เพียงไม่กี่วันก่อนที่ฟันจะขึ้น และจะดีขึ้นเมื่อฟันโผล่พ้นเหงือกมาแล้ว
Q: อาการเด็กฟันจะขึ้นมีอะไรบ้าง ?
A: สัญญาณที่พบบ่อยได้แก่ น้ำลายไหลย้อย หงุดหงิดง่าย ชอบกัดสิ่งของ เหงือกบวมแดง และอาจมีอาการท้องเสียร่วมด้วย
Q: คุณพ่อคุณแม่ควรดูแลเหงือกของลูกอย่างไรเมื่อฟันงอก ?
A: ใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกเช็ดทำความสะอาดเหงือก และใช้ปลายนิ้วที่สะอาดนวดเหงือกเบา ๆ เพื่อบรรเทาอาการปวด
Q: ทำไมลูกถึงท้องเสียตอนฟันงอก ?
A: อาการท้องเสียไม่ได้เป็นผลโดยตรงจากการฟันขึ้น แต่เกิดจากพฤติกรรมที่ลูกชอบนำสิ่งของเข้าปากเพื่อบรรเทาอาการคันเหงือก ทำให้มีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้นและทำให้เกิดอาการท้องเสียตามมาได้
ข้อมูลอ้างอิง
- http://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/ infant-and-toddler-health/in-depth/teething/art-20046378
- McIntyre, G. T., and G. M. McIntyre. ""Teething troubles?."" British dental journal 192.5 (2002): 251-255.